วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

come rain..... come come

สายฝนโปรยปรายไม่ขาดสาย ไม่มีแม้ลมที่พัด มีเพียงแค่หยดน้ำที่ร่วงหล่น พื้นถนนที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำ
ทุกทีฉันก็ไม่ได้จะใคร่ชอบกับสายฝนซักเท่าไหร่ มันทั้งเฉอะแฉะ หนาว ชื้น.....

วันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะตากฝน แต่มันหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยจริงๆ ลงรถเมลล์พร้อมกับสายฝนที่กระหน่ำตก สองข้างทางไม่มีที่ที่จะให้เราบังฝนเลย ไหนๆ ก็เปียกมาขนาดนี้ละ เดินท่ามกลางสายฝน ใจที่ร้อนลุ่มกลับเย็นขึ้น รู้สึกสบาย วันนี้สายฝนได้ปลดปล่อยเรื่องราวที่ร้อนรนภายในใจของชั้น และทำให้นึกไปถึงสมัยเด็กที่เลิกเรียนถ้าฝนตก เราจะเดินตากฝนกลับบ้าน ในตอนนี้ผู้คนรอบข้างมองชั้นเหมือนคนบ้า เนื้อตัวเปียกปอน ตอนนั้นเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ใจนิ่งสงบ เพราะสายฝนที่ตกลงมาอย่างนั้นเหรอ....

และวันนี้ได้มีโอกาสดูรายการ ณ.ART เสนอ เรื่องราวของท่านอ.ศิลป์ พีระศรี บิดาแห่งศิลปะ เริ่มท้าวความกลับไปว่าตัวเองเริ่มชอบวาดรูปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน คำตอบคือ ตั้งแต่จำความได้ก็ชอบวาดรูปเเล้ว รูปแรกที่จำได้ชัดคือรูปแม่ รูปแม่สูบบุหรี่.. แต่หลังจากรูปนั้นวาดเสร็จ ชั้นก็ไม่เคยเห็นเเม่กับบุหรี่อีกเลย การ์ตูนช่องเรื่องแรกที่วาด "ดาวพระศุกร์" (ตอนนั้นมันฮิตมากจริงๆนะ) เป็นละครที่เป็นเรื่องเป็นราวมาก ตอนนั้น่าจะประมาณ ป.2-ป.3 สมุดการบ้านทุกเล่ม รูปการ์ตูนจากด้านหลังจะต้องข้ามเขตมาชนกับเนื้อหาที่เรียนทุกครั้งไป จนครูฟ้องแม่ 555+ นั้นอาจจะเป็นเรื่องราวของเด็กหญิงมะม่วง (คำถามตอนเด็กที่ผู้ใหญ่ชอบถามเด็กว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร คำตอบของชั้นก็คือ มัณฑนากร ^-----------^ เป็นเด็กที่มีจุดยืนจริงๆ)

จนขั้นเลือกสอบเข้ามหาวิทยาลัย ชั้นก็เลือกศิลปะทั้ง 4 อันดับ (แต่ไม่ได้เป็นมัณฑนากรแล้วนะ เพราะเข้าสายวิทย์ไม่ได้) ตอนสอบโควต้า ชั้นเลือกศิลปะไทย มช.อันดับหนึ่ง แต่ทางบ้านไม่ได้เห็นด้วยกับการเรียนศิลปะเลยเลือก สังคมเพิ่มอีก1อันดับ (เค้าให้เลือก 2 อัน) แต่ดีใจมากที่ติดอันดับหนึ่ง ดีใจที่เลือกเรียนศิลปะ ดีใจที่ทำงานเกี่ยวกับศิลปะ ดีใจที่ตอนนี้เป็นครูสอนศิลปะ ดีใจที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร การวาดรูปเป็นเพียงสิ่งเดียวที่สามารถหยุดทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวชั้นไปได้ .................เหมือนกับเธอ เธอที่บอกชั้นว่า สิ่งนี้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เธอทำได้ เธอจึงอยากทำมันทุกวัน ไม่รู้มันดีรึป่าวแต่เธอก็อยากจะทำมันไปเรื่อยๆ ทำไม่หยุด เะออยากจะทำงานศิลปะเพื่อคนอื่น ไม่ใช่ศิลปะเพื่อการค้าขาย ทำมันไปเพื่อให้รู้ว่าเรายังมีลมหายใจอยู่ เพราะศิลปะยืนยาว แต่ชีวิตคนมันสั้นนัก ชั้นดีใจที่ได้ยินคำๆนั้น มันตราตรึงหัวใจชั้นไว้ตั้งแต่วันนั้น


วันนี้ชั้นมีไฟ เหมือนกับเครื่องยนต์ที่ได้รับการเติมน้ำมัน ชั้นอยากจะวาดรูปไปเรื่อยๆ วาดไปเรื่อยๆ

เด็กหญิงหน้าบึ้ง .....รักขนฟูมากๆๆนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น