วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Lovely Cat..

แมวเหมียว ร้อง เมี็้ยวๆ เดี๋ยวเจ้าก็วิ่งมา.....

เหมียวหมาว  คำติิดปากเวลาที่จะเอ่ยเอิ้นเรียกเจ้าขี้อ้อนเหล่านี้
เป็นตัวขนฟูที่มีท่าทีสงวนตัวยามแรกเจอ....
ขี้อ้อนและแสนเชื่องเมื่อเราเป็นมิตรกัน...
ขี้หวงยามที่เราเริ่มห่างหาย...
ขี้เล่นยามเจ้าอยากเห็นเรายิ้ม...
กินอิ่ม นอนพุงกาง กลิ้งไปมา ปีนป่ายข้าวของ นั่งมองน้ำหยด วิ่งไล่จิ้งจก

เหมียวหมาว ขนฟู.....ชั้นรักเธอ



รักแรกพบ.......เหมียวๆ

วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554

power of women...

feeling Bule

try to be sexy

Keep in mind

look at her eyes

pencil

marker

beauty child

remind

Beach time

Idol

raining day

What I waiting for 
rabbit!!!




Thank you my love for inspire me!!

อากาศหนาว

ลมเย็นก็พัดมาอีกครั้ง....เจอมาหลายที ก็ทนไม่ได้ซักที พยายามทำให้ชินก็ยังชินไม่ไหว
เดือนธันวาคม เป็นเดือนที่ดูคล้ายจะกระสับส่าย อยู่ไม่สุข อยากพาตัวเองไปให้ไกลจากความเหงา
ไปยังที่ ที่มีผู้คนมากมาย อยากแลกของขวัญ อยากกินเลี้ยงสังสรรค์ แต่งานบาน.....

ตอนนี้ตั้งใจว่าจะลงงานให้มาก ให้เยอะ เท่าที่จะเยอะได้ ^____________^


ช่วงที่ตั้งใจทำนิทานส่งประกวด...(แต่ส่งไม่ทัน) เจ้ากรรมจริงๆ สัญญา ปีหน้าเราจะตั้งใจใหม่

busy table!!!


story


คราวหน้าไม่พลาด เย้.....

สู้ๆนะมะม่วง.....เพื่อขนฟู

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Nail......มองกี่ที ทำให้สดใสได้ตลอด

สีสีน ........
เรื่องของสี ถือว่าเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์มากเลย ของโลกใบนี้
ทั้งสีที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาเอง ทำให้โลกนี้ไม่น่าเบื่อจนเกินไป
หรือแม้กระทั่งสีที่มนุษย์สร้างขึ้น.....................ชั้นรักในสีสัน

นึกถึงศิลปินผู้ที่มีชื่อก้องโลก.............ที่รังสรรค์งานได้งดงามทั้งที่ตาบอดสี
ช่างน่าพิศวงนัก .......

ยามที่คนเราห่อเหี่ยวหรือหม่นหมอง สีพวกนี้สามารถบำบัด อารมณ์เหล่านั้นได้
เหมือนกับช่วงนี้ ช่วงเทศกาล เป็นช่วงเวลาที่ชั้นรอคอยมาตลอดของปี รองจาก สงกรานต์
เป็นช่วงเวลาที่เทศกาลจ่อคิวเรียงกันมา ตั้งแต่ วันพ่อ คริสต์มาส ปีใหม่
แสงสียามค่ำคืน เทศกาลแห่งการแสดงความรัก สีสัน ห่อของขวัญ และอีกหลายๆอย่าง


เหมือนสโนว์โกลฟ...ที่ชั้นมองได้ไม่มีเบื่อ
พร้อมกับสีสันที่เดี่ยวในร่างกาย ที่ชั้นคอยสรรค์สร้างบรรจงแต่งเสมอๆ เล็บมือ

วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

11.11.11

11.11.11

ตัวเลขนี้ตอนแรกก็คิดว่าจะเป็นแค่เพียงตัวเลขธรรมดา
แต่พอลองมองถึงระยะเวลากว่าที่เรามาเจอกัน
เจอกันครั้งนี้ จะเจอกันอีกที ก็อีกร้อยปีข้างหน้า
นั่งคิดไปคิดมา ร้อยปี เป็นระยะเวลาที่นานเอาการเลยทีเดียว

แสดงว่า มันต้องไม่ธรรมดา......

หัวข้อที่เกี่ยวข้อกับตัวเลขที่ชั้นเขียนในวันนี้ ไม่รู้จะได้เขียนเรื่องซ้ำอีกรึป่าว
เพราะอีกร้อยปีข้างหน้า ยากที่จะคาดเดา ใช้ชีวิตอยู่เพียงสั้นๆก็พอ จะได้ไม่ทำร้ายโลกจนเกินไป

วันที่ 11 เดือน 11 ปี 2011 เวลา 11.11.11  นี้เวลาตามสากล
ถ้าเป็นเวลาไทยละ ก็ วันที่ 11 เดือน 11 ปี 2554 ธรรมดาขึ้นมาเชียว
อยู่ที่ใครจะมองอีกเหมือนเดิม  ไม่ว่าจะเรื่องราวใดก็ตาม หากเราตั้งมองให้มันธรรมดา
ยังไงมันก็ธรรมดา แต่ถ้าหากเราจะมองให้มันพิเศษ ยังไงมันก็พิเศษ

Do you believe in destiny........เช่นกัน บางครั้ง คนอื่นอาจจะมองว่าเธอธรรมดา
แต่ชั้นกลับรู้สึกว่าเธอช่างแสนพิเศษ.......พบเธอแล้วไม่เคยอยากให้หลุดไป
อยากเห็นเธอไปจนแก่ ถ้าหากว่าเราได้อยู่ด้วยกัน

ก็อยากจะรอดู 11.11.11 อีกครั้งพร้อมกับเธอ


ขนฟู......มะม่วง

วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

พริบตา...

สายฝน กระแสน้ำ ลมพัด แดดจ้า
อารมณ์ของคนก็คล้ายกัน.........

สับสนวุ่นวาย คิดว่าอยากจะเริ่มบลอกที่ห่างหายไปนาน ด้วยการเริ่มต้นเรื่องราวที่ดี
ที่ได้ทำมา ช่วงที่ทิ้งห่างไป แต่มันกลับมีเรื่องขับข้องใจ มันขุ่นมัวเกินกว่าจะใสเรื่องราวสวยงามได้
 ใจเขาใจเรา.......คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่าตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำ แต่หาได้มองในทางกลับกันไม่
ว่าตัวเองนั่นแหละที่ได้ทำอย่างที่ได้กล่าวคนอื่นไว้ มัวแต่ร่ำร้องหาความสงสาร ช่างน่าเวทนานัก....

หลายครั้งพยายามทำความเข้าใจกับการอยู่กับคนหมู่มาก มากคน มากอารมณ์
รุนแรง แข็งกร้าว ดำมืด ด้านที่ซ่อนภายในคน ช่างน่ากลัว


อยากกลับไปบ้านนอก.............
ได้แต่มองรอยยิ้มที่แอบเก็บไว้ดูยามอ่อนล้า เพื่อช่วยชะล้างเรื่องราว
มีแค่สิ่งนั้นเท่านั้นที่บรรเทาได้

ความรัก : มะม่วง ยังคงรักขนฟูเสมอ

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

come rain..... come come

สายฝนโปรยปรายไม่ขาดสาย ไม่มีแม้ลมที่พัด มีเพียงแค่หยดน้ำที่ร่วงหล่น พื้นถนนที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำ
ทุกทีฉันก็ไม่ได้จะใคร่ชอบกับสายฝนซักเท่าไหร่ มันทั้งเฉอะแฉะ หนาว ชื้น.....

วันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะตากฝน แต่มันหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยจริงๆ ลงรถเมลล์พร้อมกับสายฝนที่กระหน่ำตก สองข้างทางไม่มีที่ที่จะให้เราบังฝนเลย ไหนๆ ก็เปียกมาขนาดนี้ละ เดินท่ามกลางสายฝน ใจที่ร้อนลุ่มกลับเย็นขึ้น รู้สึกสบาย วันนี้สายฝนได้ปลดปล่อยเรื่องราวที่ร้อนรนภายในใจของชั้น และทำให้นึกไปถึงสมัยเด็กที่เลิกเรียนถ้าฝนตก เราจะเดินตากฝนกลับบ้าน ในตอนนี้ผู้คนรอบข้างมองชั้นเหมือนคนบ้า เนื้อตัวเปียกปอน ตอนนั้นเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ใจนิ่งสงบ เพราะสายฝนที่ตกลงมาอย่างนั้นเหรอ....

และวันนี้ได้มีโอกาสดูรายการ ณ.ART เสนอ เรื่องราวของท่านอ.ศิลป์ พีระศรี บิดาแห่งศิลปะ เริ่มท้าวความกลับไปว่าตัวเองเริ่มชอบวาดรูปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน คำตอบคือ ตั้งแต่จำความได้ก็ชอบวาดรูปเเล้ว รูปแรกที่จำได้ชัดคือรูปแม่ รูปแม่สูบบุหรี่.. แต่หลังจากรูปนั้นวาดเสร็จ ชั้นก็ไม่เคยเห็นเเม่กับบุหรี่อีกเลย การ์ตูนช่องเรื่องแรกที่วาด "ดาวพระศุกร์" (ตอนนั้นมันฮิตมากจริงๆนะ) เป็นละครที่เป็นเรื่องเป็นราวมาก ตอนนั้น่าจะประมาณ ป.2-ป.3 สมุดการบ้านทุกเล่ม รูปการ์ตูนจากด้านหลังจะต้องข้ามเขตมาชนกับเนื้อหาที่เรียนทุกครั้งไป จนครูฟ้องแม่ 555+ นั้นอาจจะเป็นเรื่องราวของเด็กหญิงมะม่วง (คำถามตอนเด็กที่ผู้ใหญ่ชอบถามเด็กว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร คำตอบของชั้นก็คือ มัณฑนากร ^-----------^ เป็นเด็กที่มีจุดยืนจริงๆ)

จนขั้นเลือกสอบเข้ามหาวิทยาลัย ชั้นก็เลือกศิลปะทั้ง 4 อันดับ (แต่ไม่ได้เป็นมัณฑนากรแล้วนะ เพราะเข้าสายวิทย์ไม่ได้) ตอนสอบโควต้า ชั้นเลือกศิลปะไทย มช.อันดับหนึ่ง แต่ทางบ้านไม่ได้เห็นด้วยกับการเรียนศิลปะเลยเลือก สังคมเพิ่มอีก1อันดับ (เค้าให้เลือก 2 อัน) แต่ดีใจมากที่ติดอันดับหนึ่ง ดีใจที่เลือกเรียนศิลปะ ดีใจที่ทำงานเกี่ยวกับศิลปะ ดีใจที่ตอนนี้เป็นครูสอนศิลปะ ดีใจที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร การวาดรูปเป็นเพียงสิ่งเดียวที่สามารถหยุดทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวชั้นไปได้ .................เหมือนกับเธอ เธอที่บอกชั้นว่า สิ่งนี้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เธอทำได้ เธอจึงอยากทำมันทุกวัน ไม่รู้มันดีรึป่าวแต่เธอก็อยากจะทำมันไปเรื่อยๆ ทำไม่หยุด เะออยากจะทำงานศิลปะเพื่อคนอื่น ไม่ใช่ศิลปะเพื่อการค้าขาย ทำมันไปเพื่อให้รู้ว่าเรายังมีลมหายใจอยู่ เพราะศิลปะยืนยาว แต่ชีวิตคนมันสั้นนัก ชั้นดีใจที่ได้ยินคำๆนั้น มันตราตรึงหัวใจชั้นไว้ตั้งแต่วันนั้น


วันนี้ชั้นมีไฟ เหมือนกับเครื่องยนต์ที่ได้รับการเติมน้ำมัน ชั้นอยากจะวาดรูปไปเรื่อยๆ วาดไปเรื่อยๆ

เด็กหญิงหน้าบึ้ง .....รักขนฟูมากๆๆนะคะ

วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

AB type blood

หลักจากที่ได้รับการตรวจสุขภาพประจำปี ทำให้รู้บางอย่างที่สงสัยมานาน มีหลายคนถามว่า กรุ๊ปเลือดอะไร ตอบไม่ได้ ไม่รู้จริงๆ เพราะไม่เคยป่วยหนักที่ขนาดต้องรับเลือด แล้วเอกสารต่างๆก็ไม่มีบอก ถือโอกาสครั้งนี้ทำการตรวจซ่ะเลย ฮ่าๆๆๆ......เลยทำให้เราได้คำตอบซักทีกับเรื่องค้างคา ฉันกรุ๊ปเลือด AB

จากคำทำนายนิสัยจากหมู่เลือดของหลายๆ สำนัก (ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าอะไร) คนกรุ๊ปเลือดนี้มีเพียง 2 % จากจำนวนทั้งหมด พระเจ้า!!! ชั้นเป็นชนหมู่หน้อยเหรอเนี้ย คนในหมู่นี้ถือว่าเป็นที่มีความแปลกมากพอตัว มันก็ตรงบ้างไม่ตรงบ้าง (ไม่แน่ใจว่าที่บอกว่าไม่ตรงนี้คือตรงจนไม่ชอบใจรึป่าวนะ)....

จริงๆแล้วชั้นก็เป็นคนที่แปลกมากเหมือนกันนะ อารมณ์เปลี่ยนไว ถ้าใครที่เข้ามาผูกสัมพันธ์กับชั้นก่อนโดยที่ชั้นไม่ได้เชื่อเชิญ ชั้นจะไม่เปิดใจในเวลาอันสั้น แต่ถ้าชั้นเป็นฝ่ายเริ่มกับใคร ชั้นให้ใจเกินร้อย ไม่ชอบให้ใครละลาบละล้วงของส่วนตัว (แบบยังไม่สนิทกัน) และอื่นๆ อีกบลาๆๆๆๆๆ.

คนเราก็ยอมมีเรื่องที่บวกและลบอยู่ในตัว ชั้นก็เหมือนกันมีส่วนที่เป็นด้านมืดอยู่ไม่น้อย ชั้นเมื่อวันก่อนนั้น เมื่อหลายอาทิตย์ก่อน เมื่อหลายเดือนก่อน เมื่อปีก่อน เมื่อหลายปีก่อน เมื่อได้ลองนึกย้อนกลับไปก็จะมีลายละเอียดด้านมืดที่ต่างกันออกไป มันขึ้นอยู่กับสภาพเเวดล้อม วุฒิภาวะทางอารมณ์ วัย ความคึกคะนอง พอลองมามองตัวเองในทุกวันนี้ เวลาได้ขัดเกลาชั้น เกลาอารมณ์ เกลาปัญญา เกลาใจ ...

เมื่อก่อนชั้นเคยคิดว่าความสุขของชั้นคือเราต้องชนะผู่อื่น ต้องเป็นที่รัก ทุกสิ่งทุกอย่างถูกคาดหวัง  ต้องทำเงินเพื่อนำเงินมาบรรดาลสุข ต้องมีชื่อเสียง และอื่นๆอีกมากมาย แต่ความจริง เกือบทั้งหมด ผิดหวัง ชั้นต้องแบกรับความรู้สึกมากมายที่ตัวเองก่อขึ้น.... ซึ่งมันทำร้ายตัวเองชัดๆ

เมื่อวันพฤหัสได้ดูรายการของวรรณสิงห์ ประเสิรฐกุล พูดถึงเรื่องความสุข "แค่ไม่ทุกข์ นั่นไม่เรียกว่าสุขเหรอ" "ความสุข...โดยสังเกต" ขอให้เจอความสุข เพราะความสุขอยู่รอบตัวเรา
ขอความจากนิ้วกลม และสิงห์ และนุ่น ..

ชั้นในสองปีที่ผ่านมานี้มีจุดพลิกผันมากมาย...ถือว่าทำให้คิดอะไรได้หลายอย่าง



อย่างหนึ่งที่ตระหนักถึงคือ "รักตัวเองให้มาก" ความสุขหาง่ายนิดเดียว แค่นั่งเงียบๆ ก็สุขแล้ว


เด็กหญิงหน้าบึ้ง รัก ขนฟู

วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

ภูเขาทอง.......ยินดียินดี

การพบกันนอกสถานที่ครั้งแรก ...
ตื้นเต้น  ดีใจ เรียงลำดับเหตุการณ์ไม่ถูก
การเตรียมการคลาดเคลื่อน
ชั้นปล่อยให้เธอรอ 1 ชม.
การเดินทางแบบเร่งรีบ ใจของชั้นไปถึงยังที่ที่เรานัดกันแล้ว
ใจของชั้นมันเร่งความเร็วกว่าแรงเคลื่อนของแท็กซี่
ชั้นอยากจะบอกคุณลุงว่า เหยียบคันเร่งอีกนิดได้มั้ยค่ะ........
ฝนเริ่มโปรยปราย.......
ชั้นเป็นห่วงเธอเหลือเกิน.....................


ขอบคุณ: น้องสาวที่ทำให้ชั้นได้พบเธอ
ขอบคุณ: ลุงเเท็กซี่ที่ไม่มีตังทอน (ทั้งๆที่ตอนแรกเราทะเลาะกันจะเป็นจะตาย) จนเธอต้องเอาเงินมาจ่ายให้
ขอบคุณ: ฝนที่โปรยปราย ทำให้เราท้งสองเย็นสบาย แต่ไม่ถึงกับเปียก
ขอบคุณ: เพื่อนของชั้นที่แสดงงาน แล้วทำให้เรามีหัวข้อสนทนากันมากขึ้น
ขอบคุณ: ยาแก้หวัดที่บังเอิญพกไป ให้เธอเก็บไว้ (เพราะเธอบ่นว่าเป็นหวัด) อยากให้เธอสบายดีน่ะ
ขอบคุณ: รถเมล์สาย 12 ที่ทำให้เราได้เดินละเลียดชมบรรยากาศสองข้างทาง (วนอยู่ 2 รอบ)
ขอบคุณ: มล.คึกฤทธิ์ ที่ทำให้บทสนทนาของเรามีอรรถรสมากยิ่งขึ้น
ขอบคุณ: ป้าขายหมูปิ้งที่ชมว่าคู่เราน่ารัก 5555+ ออกจะโหด
ขอบคุณ: คนมาขอตัง ที่ทำให้เราได้สัมผัสกัน
ขอบคุณ: ระยะทางที่ทำให้ชั้นได้เห็นรอยยิ้มของเธอเปื้อนเหงื่อ

ขอบคุณทุกๆอย่าง ทั้งบรรยากาศรอบข้าง เนื้อเรื่องที่เราหยิบยกมาคุยกัน การสนทนาของเราดูอร่อย จนไฟที่ประดับข้างจืดซ่ะสนิท เพิ่งรู้ว่าอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลาเดินวนมันก็สนุกดี

อากาศที่กำลังพอเหมาะ บรรยากาศที่ประดับประดาไปด้วยไฟ ผู้คนไม่มากมาย รถวิ่งกันพอประมาณ
อยากจะบรรยายภาพของเมื่อวานให้มากที่สุด แต่มันล้นจนอธิบายเป็นตัวหนังสือไม่ทันใจ
เธอบอกว่าไม่อยากจดบันทึก เพราะไม่อยากให้มีร่องรอยอะไร แต่ชั้นกลับคิดว่ามันคือเรื่องสวยงามที่น่าจดจำ ชั้นอยากจะบันทึกไว้ เพราะทุกข้อความในนี้มันแฝงบรรยากาศของเมื่อคืน ทุกคราวที่ชั้นกลับมาอ่าน ชั้นจะยังได้กลิ่นดิน กลิ่นไอฝน เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม ท่าทางการมัดผม...

วันนี้เด็กหญิงไม่น่าบึ้ง เธอยิ้มแก้มปริ อมสีชมพู...........


รักภูเขาทองค่ะ

วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

บทที่ 1

หลายวันที่ผ่านมา ตั้งใจเริ่มต้นเขียนงานอย่างจริงจัง!!!
ซื้อสี กระดาษ ดินสอ ปากกา มากมาย......เลือกกันไม่ถูกอย่างหน้าเวียนหัว
แต่ในขณะที่เวียนหัวอยู่นั้น ชั้นได้กำลังใจมากมาย จากปลายสายอีกทาง
เราสนทนากันอย่างถูกคอ จนเวลาผ่านไป ผ่านไป..


16.31 รหัสลับของหัวใจ ฝนเทกระหน่ำโดยที่ชั้นไม่ทันได้รู้เลยว่ามันตั้งเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่
เนื้อตัวเปียกปอน เดินขึ้นรถเมล์ปรับอากาศเพื่อนเดินทางกลับ รองเท้าชุ่มแฉะไปด้วยน้ำ
อากาศเริ้มเย็นขึ้น ดูจากอากาศสั่นเทาของคนรอบข้าง  แต่ชั้นหาได้หนาวเหมือนคนอื่น
ข้างในของชั้นมันช่างอุ่น มันอุ่นจนชั้นลืมไปเลยว่าเท้าแฉะ เสื้อเปียก...16.31 ขอบคุณค่ะ

กลับห้องมาด้วยอารมณ์ที่เพลิดเพลิน ทำกับข้าวคลอเคล้าเสียงเพลง ตัวละครหลายตัว
ผลิตออกมา


เค้กส้มแช่เย็น........ดีใจที่เธอชอบ
ดีใจที่เธอชอบผลงานของชั้น.........มีกำลังใจอยากจะทำเพิมอีก


อีกข้อหนึ่งที่อยากจะทำต่อเรื่อยๆๆ  ซึมซับกับเธอเยอะๆ........


จะวาดงานเยอะๆ  จะเอาขนมอร่อยๆไปฝากนะ

วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วันสิ้นเดือน...

วันนี้มันวันที่ 31.8.11 นี่ มีสิ่งที่อยากจะเริ่มต้นมากมาย มีหลายอย่างเปลี่ยนแปลง
มีหลายสิ่งที่ชั้นนึกได้ หรือเรียกว่าสำนึกได้ก็ได้มั้ง 5555+
วันนี้มีการเริ่มต้นบางอย่าง.....โดยการเริ่มต้นนี้ ชั้นคิดว่ามันเป็นการเริ่มต้นที่ดีน่ะ
จากที่เคยเป็น จะทำ จะนั้น จะนี่ เดี๋ยวจะ พรุ่งนี้นะ...ตอนนี้ เริ่มทำแล้ว ^_____^

วันนี้ชั้นเริ่มที่จะออกกำลังกาย เริ่มวิ่ง วิ่ง วิ่ง มันเคยเป็นกิจกรรมที่ชั้นชอบมาก
(สมัยตอนเรียนมัธยม จนถึง ปี1) แล้วก้อร้างลู่วิ่งไปนาน (ตอนที่พิมบลอคนี้ เหงื่อยังหยด ลมหายใจยังหอบแรง) ชั้นวิ่ง วิ่ง วิ่งไปเรื่อยๆ ร่างกายแดงก่ำ มันแสดงถึง เลือดภายในร่างกายของชั้น กำลังสูบฉีด กล้ามเนื้อได้ขยับเขยื้อน ความร้อนเริ่มพร้อมกับการเผาผลาญภายในร่างกาย เหนื่อยจนหายใจแสบปอด ชั้นเบรกเปลี่ยนเป็นเดินบ้าง พอหายเหนื่อยก็วิ่งต่อ....รวมแล้วก็วิ่งไป 9 รอบ เดิน อีก 6 รอบ อารมณ์ดี

ชั้นจะวิ่งต่อไป เท่าที่ร่างกายจะวิ่งไหว ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีน่ะ มะม่วง รายละเอียดอื่นๆเธอก็อย่าลืมละ


*******เดือนนี้ (กันยายน) ลิสรายการที่จะต้องทำ
1.ภาพประกอบนิทาน 2 เรื่อง ปล.ต้องลงสีให้เสร็จ 1 เรื่อง
2.วิ่งให้ได้ทุกวัน
3.ประหยัด
4.มีสติให้มาก (มองบวก)
5.ซึมซับขนฟูให้มาก (เลิฟที่สุด)
6.วาดภาพประกอบให้ได้มากที่สุด
*****พอละมั้ง 55555+  พยายามนะมะม่วง  สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆ >__________<


เด็กหญิงหน้าบึ้ง รัก ขนฟู ที่สุดน่ะ ม๊วฟๆๆ

วันที่ไฟดับ..

เมื่อคืนนี้เวลา ประมาณสามทุ่มกว่า ฝนก็ไม่ได้ตกแรงซักเท่าไหร่ แต่พื้นที่บริเวณนี้
ไฟดับ...ทุกอย่างสงบเงียบ ไม่มีแม้เสียงของพัดลม ในความมืดและเงียบนั้น
มีเพียงชั้น และความคิด ที่เราสามารถคุยกันได้อย่างคล่องคอ
เราถามไถ่ซึ่งกันและกัน ....เรื่องที่ยังค้างคา ถูกหยิบยกเข้ามาเป็นประเด็น
เรื่องที่สับสน เรื่องแล้ว เรื่องเล่า ที่ชั้นได้ทบทวนอีกครั้ง เพื่อหาทางออก


บางทีในการใช้ชีวิต  ถ้าเรามีช่วงเวลาที่ได้พักแล้วฟังเสียงข้างในของตัวเองบ้าง
หยุด เพื่อที่จะฟังเสียงเงียบบ้าง  คุยกับตัวเองมากขึ้น เพื่อที่จะได้เข้าใจและรักกันมากขึ้น
เคยมีคำกล่าวว่า "สื่อสารกันมาขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น" ในเมื่อวันๆๆ เรามัวแต่เข้าใจคนรอบข้าง
ให้เวลาเพื่อเราจะได้กลับมาเข้าใจตัวเราเองมากขึ้น คุยกับตัวเองบ้าง......


ไฟฟ้าดับ แค่ 30 นาที  แต่เข้าใจตัวเองมากขึ้น.........................

"เสียงข้างในจิตใจ เชื่อและทำต่อไป ไม่ต้องกลัวอะไร ทำอย่างที่ใจเธอต้องการ"




ดีใจที่เมื่อวานไฟดับ.......................เด็กหญิงหน้าบึ้งกับเจ้าขนฟู

วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

การมองเห็น

สมัยเด็ก เด็กหญิงคนนี้ คิดว่า "คนใส่แว่นโคตรเท่ห์เลย" เธออยากใส่แว่นเหมือนคนอื่น
พยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้ใส่แว่น แต่ยังไงสายตาเธอก็ยังปกติดี จนเธอเริ่มเป็น นางสาว
เธอเริ่มมองอะไรพร่ามัว (เพิ่มขึ้นเล็กน้อย) เธอรีบไปตัดเเว่น เพื่อที่จะได้โก้เหมือนกับคนอื่น แต่ที่ไหนได้
คนอื่นเค้าเลิกใส่แว่นกันไปแล้ว แว่นนั้นก็ถูกลืมไป ถูกทิ้ง หัก เสียสภาพ
เธอทนกับการมองเห็นที่พร่ามัว วันแล้ววันเล่า จนคุ้นเคยกับมัน แล้วคิดว่ามันปกติ
เวลาล่วงเลยจากเดือน เป็นปี เป็นหลายปี จากภาพที่เคยคมชัด กลายเป็นภาพในอดีตที่นึกยังไงก็นึกไม่ออกมีแต่ภาพเลือนลาง ภาพซ้อน

วันนึงเธอได้เข้ารับการตรวจสายอีกครั้ง พร้อมกับตัดแว่นใหม่ แต่คราวนี้ไม่ใช่เพื่อว่าอยากเท่ห์เหมือนใครๆ แต่เพียงแค่อยากมองโลกให้สดใสมากขึ้น............


และแล้วแว่นก็มาส่ง.....คราวนี้ไม่ว่าเธอจะมองอไรก็ชัดเจนและสดใสมากขึ้น จิตใจเธอเบิกบาน
เธอนั่งริมหน้าต่าง มองไปตึกนั้นบ้าง ตึกนี้บ้าง ตึกโน้น ตึกนู้นนนน............
มองใบไม้ที่ทับซ้อนกันเป็นเลย์เยอร์...ราวตากผ้าที่อยู่ระเบียงหอพักตึกถัดไป 
พร้อมกับค่อยๆ ละเลียดเค้กส้มเเช่เย็น ความหวานอมเปรี้ยวของเค้กนี้ ทำให้อรรถรสในการชมวิวครั้งนี้ มีรสชาติมากขึ้นเป็นกอง..


ตั้งแต่วันนี้ไป จะชดเชยกับสิ่งที่เสียไปให้มากที่สุด จะเก็บทุกรายละเอียด ...

"การมองเห็นภาพชัดเจน ใจก็เป็นสุขแล้ว"

เด็กหญิงมะม่วง (หน้าบึ้ง)  5555+


มะม่วงเจ๋อ กับแว่นใหม่

วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

สุดท้าย....ฝันมันก็คือฝัน

ถ้าฝันมันสุข.......................เราจะอยากอยู่แค่ในความฝันมั้ย
ถ้าโลกมันโหดร้าย เรากล้าเผชิญและยอมรับมั้ย....




ตอนนี้ในหัวกำลังเหมือนภาพยนต์เรื่อง "Inception"
ชั้นกำลังติดอยู่กับฝันที่ชั้นสร้างขึ้น..........โลกของชั้น
ชั้นอยากจะฝันให้ลึกที่สุด แล้วขังตัวเองอยู่ในนั้น......ไม่แก่ชรา
มีเพียงชั้น และสิ่งที่ชั้นต้องการ....................


แต่มันก็คือฝัน........

และชั้นก็ตื่นอยู่ทุกวัน......ต้องพบเจอกับโลกแห่งความจริง
โลกที่ชั้นควบคุมไม่ได้...............

นี่ชั้นอ่อนไหว หรือฮอร์โมนมันจงใจ......




อยากฝันตลอดกาล........

วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

.........ฝันเสมือนจริง.........

เคยฝันแบบนี้บ้างมั้ย??.................
ความฝันมีมีความรู้สึก ถึงการสัมผัส ความอุ่นที่ได้รับ เเรงกด แรงอัดกระแทก
ความวาบหวาม......ความกลัว ความเหนื่อย ความปราบปลื้ม หรืออีกนานา.....
เป็นความฝันที่พิเศษ ที่แม้กระทั่งตอนตื่นเราก็ยังคงรู้สึกอยู่
ความรู้สึกที่ได้รับนั้นเสมือนจริงจนเราแบบแยกไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่า เรื่องไหนจริง เรื่องไหนฝัน
บางทีฝันมันสุขเสียจนไม่อยากตื่น หรือเหนื่อยจนแทบหมดแรง น่ากลัวเสียจนตัวสั่นเทา

แต่เมื่อคืนชั้นไม่ได้ฝันร้าย..........มันเป็นฝันที่แสนวิเศษ
เราอยู่ด้วยกัน นั่งพิงหลังกัน ไร้ซึ่งบทสนทนา เราอยู่กันอย่างเงียบๆ
ให้เวลาเป็นตามที่มันจะเป็น......แต่ความรู้สึกที่ไหล่ผ่านจากอีกไหล่ไปยังอีกไหล่
มันช่างเป็นความรู้สึกที่แสนอบอุ่น เหมือนเราส่งผ่านความรักซึ่งกันและกัน
มันปลอดภัย สดใส บริสุทธิ์............หัวเราอิงกัน กลิ่นหอมของแดดอ่อน ลมพัด
หนังสือของเธอ และเสียงเพลงของชั้น.....................


มันเป็นฝันที่อบอุ่นมาก.............เธอกับชั้น เราคิดเหมือนกัน



^________________^



แม้ว่าชั้นจะตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่เพียงลำพัง แต่ความรู้สึกในเรื่องราวเมื่อคืนนั้น
ยังตราตรึง สัมผัสได้ รอยอุ่นที่เราอิงกัน มันยังอยู่................"คุณละ  เคยมั้ยกับฝันเสมือนจริง"
 "เด็กหญิงหน้าบึ้ง กับเจ้าขนฟู"


วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คิดถึง หน้าร้อน




แสงแดดที่สาดส่อง...............สายลมเอือยๆ เสียงเพลงคลอเคล้า เท่านี้ก็สุขแล้ว

วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ส่วนที่เปราะบาง

เส้นใยบางๆ ที่ขึงพรืดตลอดแนว มันใสและบางจนไม่มีใครจะสังเกตเห็น
เส้นใยนั้นอาจจะสะกิดโดนใครบ้าง โดยที่มันไม่ตั้งใจ......
มันอยู่ของมันอย่างนั้น มันอาจจะไหวบ้างไปตามแรงลม
แต่ผู้ที่เดินผ่านไปมา..."โอ๊ย!! อะไรเนี้ย"  "เ...ี่ย อะไรว่ะ".....นานาคำสบถ

ผู้คนนับร้อย ที่ถิ้งถ้อยคำเอาไว้มากมาย...ใยเส้นนั้นได้แต่ร้องไห้

จากที่เคยสงบเงียบ ใยเส้นนั้นกลับฝนตัวเองให้มีความคมขึ้น หรือแม้ยามที่ลมสงบเธอก็จะเเกว่งไกวตัวเองให้เคลื่อนไหวไปมา เวลาที่เธอได้กรีดลงบนเนื้อหนังของใครซักคนมันช่างรู้สึกดีอย่างนี้นี่เอง เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด กลิ่นคาวเลือด สีหน้า ความทรมาน น้ำตา ....ใยเส้นนั้นรู้สึกปรีดายิ่งนัก

เธอทำอย่างนั้นเรื่อยมา จากใยเส้นใสๆ คราวนี้กลับกลายเป็นใยสีแดงสด ผู้คนที่ผ่านไปมาเริ่มหวาดระแวง หลีกเลี่ยงเส้นทางที่จะผ่านใยเส้นนั้น และแล้ว ทางเส้นนั้นก็ไม่มีคนเดินผ่านอีก.....


ทุกอย่างมีที่มาและที่ไป มีเหตุและผลของมัน เหมือนความรู้สึก มันมีฉนวนเสมอ  ถึงแม้บางทีที่มานั้นอาจจะดูไร้ค่า ไร้สาระ หรือดูโง่ สำหรับใครบางคนก็ตาม มากเราน้อยเค้า มากที่เค้า น้อยที่เรา .......



เมื่อเส้นใยของความรู้สึกขาดผึง!!!!!!!!!! ไม่มีทางต่อคืน

หญิงสาว และความงาม

หญิงสาวที่งดงาม ยามที่เธอมีความรัก...



" เราเกิดมากับความงามที่ได้รับจากพระเจ้ามาคนละนิดคนละหน่อย
แต่เราจะตายไปกับความงดงามที่เราต้องสร้างขึ้นมาเองในชีวิต " By Prapas Cholsaranon




หลูบบบ......ของอารมณ์

ลมปะทะหน้า แสงแดดที่สาดส่อง ความเร็วที่กำลังขับเคลื่อน
ความเร็วทวีขึ้นทุกที ตอนนี้ลมที่พัดเข้ามา ทำให้เราไม่สามารถลืมตาขึ้นได้
หนังหน้ารู้สึกว่ามันจะไปรวมตัวกันหนีสายลมอยู่ที่หลังหู น้ำตาไหลรินไม่หยุด
ร่างกายของเรากำลังเคลื่อนต้านกับแรงลมอยู่ จังหวะที่พุ่งทะยานขึ้นฟ้า และดิ่งลงสูงสู่เบื้องล่าง บวกกับเส้นทางที่แสนจะคดเคี้ยว ชวนคลื่นเหียนอาเจียนยิ่งนัก เหมือนกับผิวหนังกำลังจะหลุดลอก ไปกับแรงลมที่โหมกระหน่ำ...น้ำตาที่ไหลรินไม่ขาดสายทำให้ทัศนการมองเห็นไม่ดีเลย....จะทำอย่างไร ในสมองมันกลวงเบาหวิว ไส้กับกระเพาะกำลังฟาดฟัน พัวพัน อิลุงตุงนังกันอย่างยุ่งเหยิง
ลมเริ่มเบาลง สถานะการณ์กำลังสงบ แต่ภายในร่างกายยังคงหมุนอยู่ ชั้นเดินลงจากรถขบวนนั้นอย่างทุลักทุเล ไม่มีแม้แต่แรงที่จะยืน ร่างกายสั่นเทา น้ำตายังไม่หยุดไหล ใจยังไม่หยุดสั่น
แม้ลมนั่นจะสงบนิ่งแล้ว แต่ความกลัวนั้นเหมือนกับเรื่องราวนั้นยังอยู่


............ชั้นทรุดตัวลงนั่งกับพื้น แต่รู้สึกได้กับความอุ่นที่สัมผัสกับไหล่ที่สั่นระริก ชั้นจึงหันไปยังต้นทางของความอุ่นนั้น พร้อมกับพบกับรอยยิ้ม รอยยิ้มที่ไม่ทีการเเสร้งทำแต่อย่างใด มือนั้นค่อยๆ ประคองชั้นขึ้นอย่างถนุถนอม....เราสบตากัน พร้อมกับพยักหน้าถามความมั่นใจว่าชั้นไม่เป็นไร ก่อนที่เราจะจากกัน
เป็นการรู้จักกันที่ไร้ซึ่งบทสนทนาใดๆ

ขณะที่ชั้นกำลังตกอยู่ในภวังค์นั้น ความกลัวที่มีอยู่กลับหายไปจนหมด.......เหลือเพียงช่องว่าง
ที่ชั้นต้องการให้ความอบอุ่นที่จากเพิ่งไปมาเติมเต็ม....แต่ชั้นจะไปหาสิ่งนั้นได้อย่างไร...................



ชั้นจึงกลับมายังที่เดิม วันเดิม เวลาเดิม...."แม้จะเพียงอาทิตย์ละวันเท่านั้น"

"เด็กหญิงหน้าบึ้ง กับเจ้าขนฟู"


วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554

SUN.......Shine >____________<"

วันนี้อากาศร้อน...ร้อนมาก ถึงมากที่สุด
เวลา 7.30น. แต่มันอากาศร้อน เหมือนกับ ช่วงเวลากลางวันค่อนไปทางบ่าย
ของเมื่อหลายๆ ปีก่อน ยืนที่ป้ายรถเมล์ รู้สึกแสบที่ผิวไม่จาง แต่ทวีความแรงขึ้นเรื่อยๆ

ด้วยปกติเป็นคนที่ชอบหน้าร้อนที่สุดแล้ว ชอบลมที่พัดเอือยๆ มีแสงสาดส่อง
ช่วงกลางวันยาวกว่ากลางคืน......กิจกรรมหน้าร้อนช่างเยอะนัก

.......ในช่วงวัยเยาว์ถ้านึกถึงหน้าร้อนก็ต้องเป็นช่วงปิดเทอม...............
สระว่ายน้ำ  เทศกาลสงกรานต์ เวลาอาบน้ำ น้ำ น้ำ น้ำ น้ำ....เครื่องดื่มแบบเย็น ไอศกรีม
พัดลม มะม่วงเปรี้ยว ใต้ต้นมะขาม หนังสือการ์ตูน เปลยวน.................
(ตอนเป็นเด็ก ยายจะรดน้ำใต้ต้นไม้ก่อนที่เราจะไปปูเสื่อนอนนั่งเล่น)............

คิดถึงช่วงเวลาปิดเทอม บรรยากาศแบบบ้านนอก ^________^

วันนี้มีถ่ายงานนอกสถานที่...แถวเส้นบางนา อากาศร้อนทรมานใจมาก
เราเริ่มงานเวลาประมาณ 10.00 น. แต่ความแรงของแสง เกินไปไกลมาก
แต่ด้วยความที่เป็นไม่ได้เกรงกลัวต่อเเสงแดด หรือความแต่อย่างใด
จึงบุกเดินลุย สำรวจ หาโลเคชั่นสำหรับการถ่ายทำ อย่างเต็มที่ .....
พอเดินได้ซักประมาณ 5 นาทีเท่านั้น แสงแดดได้แผดเผา จนแขนและหน้าแดงเป็นปื้ด
เมื่อสำรวจเสร็จก้อกลับเข้าที่พัก ปรากฎว่าจากที่แดงนั้น กลายเป็นดำสนิท
นี่คือแดดช่วงสายเหรอ?????................



คิดถึง คิดถึง คิดถึงหน้าร้อนเมื่อหลายๆๆ ปีก่อน ในตอนที่เรากับธรรมชาติ ยังรักและเป็นห่วงกัน



เวลาที่ผิวเท้าได้สัมผัสกับ ผืนดิน และผืนหญ้า ช่างเป็นความสุขที่สุด...

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

การเงิน กองคลัง..

จิตใจที่ล่องลอยและอ่อนไหว...มักปลิวไปตามอาหารของสังคม

****เดือนที่ชั้น กรอบแกรบ จิตใจที่อ่อนไหวทำให้ชั้นหลงระเริงกับสิ่งที่ล่อตา เสื้อผ้าอาภรณ์
เครื่องประดับ อาหารราคาแพง.....ปาร์ตี้วงสังคม ระรื่นกับเสียงเพลงที่ต้องแลกกับราคาที่สูงลิบ
(แต่มีคนบอกชั้นว่ามันคุ้มค่า)......แล้วชั้นก็อินกับความคุ้มที่เค้าได้เล่าอ้าง

อาจจะคิดว่า ในเมื่อทำไปแล้วมาคิดตอนนี้มันจะแก้อะไรได้.........นั่นคือเรื่องที่กำลังกลัดกลุ้ม
มันแสดงให้เห็นถึง ความอ่อนในการที่จะคอนโทรล จิตใจในสิ่งที่จำเป็น และกำไรชีวิต....

แต่ตอนนี้....เมื่อนึกย้อนไป ชั้นจะระวังมากขึ้นในครั้งหน้า


"พอดี พอเพียง".........คำนี้ที่ใครๆก็พูดกัน  ได้ยินจนชินหู คิดว่าทำไมต้องทำ
พอดีคือ อะไร  พอเพียง ได้อย่างไร ช่างน่าขันนัก สำหรับความคิดของตัวเอง
เพราะตอนนี้มีสิ่งของมากมายที่เหลือใช้ ทั้งที่กำลังใช้ ที่ใช้แล้วลืมไป หรือของใหม่ที่ยังไม่ได้แกะ
เต็มไปหมด  "พอ" เห็นคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่ สิ่งที่วันนนั้นเมื่อชั้นได้ซื้อมา เป็นสิ่งที่คิดว่าสำคัญ
แต่ตอนนี้กลับนอนอยู่ก้นกล่อง......."เพียง" ใส่ใจตรึกตรอง ก่อนจะแสวงหา คิดถึงของที่บ้าน





เอา!!! "สู้ๆ" น่ะมะม่วง  สำหรับเดือนที่โหดร้าย เพราะความเลินเล่อของเธอเอง
          "สู้ๆ" น่ะมะม่วง  สำหรับการเริ่มต้นใหม่ มันยังไม่สายที่คนเราคิดจะเริ่ม




ตอนนี้ "มะม่วงกำลังแตกกิ่งก้าน แสดงว่าเธอกำลังโตขึ้นอีกนิดนึงแล้ว..."



เปิดประตูเข้าห้องสมุด....

22.08.11 วันนี้เป็นอีกวัน ถึงแม้จะไม่ใช่วันแรกที่เราได้เจอกัน แต่ความรู้สึกของชั้น มันกลับใหม่อยู่เสมอ
มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ธรรมดา.....มันเป็นวันที่แปลกจากปกติเล็กน้อย
เพราะ ชั้น กับเธอ เราจะเจอกันแค่ อาทิตย์ละหนึ่งวันเท่านั้น
      ...............แต่...............   อาทิตย์นี้ชั้นได้เจอกับเธอถึงสองครั้ง  ถือว่ามันพิเศษมากสำหรับชั้นแล้วแหละ
เราสนทนากันตามปกติ มีอรรถรสบ้างเล็กน้อย ชั้นรู้สึกว่า เวลาที่เราได้สนทนากัน ชั้นจะเห็นรอยยิ้ม
และสัมผัสกับเสียงกัวเราะของเธอได้ทุกครั้ง..............รอยยิ้มของเธอ ทำให้ชั้นมีพลังวูบวาบ (เหมือนกับพลังยอดมนุษย์) วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ชั้นได้รู้จักเธอมากขึ้น ครอบครัวของเธอช่างดูอบอุ่น ไม่แปลกใจเลย ที่เธอช่างเป็นคนที่มองโลกในเเง่บวกเช่นนี้ ..........

แต่มีอย่างนึงที่ชั้นรู้สึกติดค้าง สำหรับการจบบทสนทานาของเรานั้น
ชั้นประหม่าเสียจน บอกลาเธอแบบห้วนๆ (ตอนนั้นไม่คิดถึงแต่เธอจนไม่รู้จะทำอย่างไร)
...............คาวหน้าจะมีพิธีรีตรองมากขึ้น เพื่อบทสนทนาของเราจะได้ มีช่วงต่อสำหรับครั้งหน้า






วันนี้   "ฝันดี" เพราะห้องสมุด.....

วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

"ห้องสมุด"

บางครั้ง อารมณ์ ความรู้สึก มันมักจะอยู่เหนือการควบคุม
จนบางครั้งเราเองก็ไม่สามารถจะตามมันได้ทันเลย ว่ามันได้ก้าวไปถึงขั้นไหน
....หรือว่าเลย ขีดความควบคุมของเราไปแล้ว......

ยิ่งความรู้สึดี ที่เรามี หรือว่าได้เริ่มก่อตัวขึ้นภายในตัวเราแล้ว
"เหมือนขุมพลังบวก"........ทำให้เราสามารถทำอะไรหลายๆอย่างได้ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเราไม่เคยจะทำได้



เช่นเดียวกับ เหล่าความคิดสร้างสรรค์ท้ั้งหลาย...มันก็เกิดจากอารมณ์ ที่เข้ามาเป็นตัวสร้างสรรค์งาน
ให้เกิดความสรร้างสรรค์...ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือ ความเศร้า
มันสามารถกลั่นกรองออกมาเป็นตัวงานที่เราต้องการจะถ่ายทอดอารมณ์ของเราออกมา
จากนามประธรรม ให้เป็นรูปธรรม



เหมือนกับตอนนี้   .....สำหรับเธอ "ห้องสมุดของชั้น"

วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2554

My table!!!!!!

sometime I feel lonely
But! now I'm looking around my table.

My little friend still smile to me :)




Three little bunnies ;p


little Chip & her mom


my pencil box



word to remind!


the end! my busy table.











วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ความล้ำสมัย ...

ทุกวันนี้คงไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้

ว่า "ชีวิต" ของเราๆ นั้นได้มีเจ้าเทคโนโลเข้ามามีบทบาท
จนแทบจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญอีกสิ่งหนึ่งเลยทีเดียว

วันใดที่เราลืมโทรศัพท์มือถือออกจากบ้าน "กระวนกระวาย"
วันใดไม่ได้เช็คเมลล์ "ว้าวุ่น"

ต้องขอขอบคุณกลุ่มคนที่มีความคิดสร้างสรรค์
ที่กล้าลบล้างความเชื่อเดิม

และได้สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้เรามากมาย

ที่เกริ่่นมาเสียมากมายไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ เพระาว่าตอนนี้มีเทคโนโลยีใหม่
ที่โดนใจอย่างแรง FlexBook!!!!


ตัวนี้เป็นไอเดียของ Fujitsu ที่เอาใจชาวไอทีที่รักพี่เสียดายน้อง อยากได้ทั้งโน้ตบุ๊ค แท๊ปเลต อี-รีดเดอร์ ให้สามารถพับ เก็บ เปลี่ยนให้เป็นอย่างใจต้องการได้ เพียงแค่ครอบครองเจ้า Flexbook เพียงตัวเดียวเท่านั้น เห็นแล้วอยากได้มากๆ :- ) 

วิธีการพับ


ถือว่าเป็น best wish list ของปีนี้เลยละ อื้มๆๆ....... 




วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

@vanilla








ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น บรรยาการเป็นกันเอง
ชอบสีของร้าน ..........ความสงบเงียบที่ซ่อนตัวอยู่กลางทองหล่อ


ถูกใจเราที่สุดเพราะญี่ปุ่นนี่แหละ

^w^........




แรงบันดาลใจ

บางครั้งยามที่เราได้อ่อนล้าเกินคำบรรยาย

คำพูดจาก"คนบันดาลใจ"

สามารถทำให้เราชื่บานขึ้นใหม่ได้ และพร้อมจะสู้ขึ้นใหม่อีกครั้ง

"ทุกคนมีความสารถ และเก่งกว่าที่ตัวคุณรู้สึก"